แชร์

แผ่น MDF (Medium Density Fiberboard) และ HMR (High Moisture Resistance) แตกต่างกันอย่างไร

อัพเดทล่าสุด: 24 ม.ค. 2025
364 ผู้เข้าชม

พาไปรู้จักแผ่น MDF และ HMR คืออะไร 

แผ่น MDF (Medium Density Fiberboard) และ HMR (High Moisture Resistance) ทั้งคู่เป็นวัสดุแผ่นที่ผลิตจากเศษไม้และใยไม้ แต่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ขบวนการผลิตแตกต่างกัน ความเหมาะสมในการใช้งานก็แตกต่างกัน แต่ทั้งสองชนิดมีความแข็งแรงและสามารถนำมาใช้ทดแทนไม้จริงได้ในหลายงาน


ลักษณะทางกายภาพ

  • วัสดุแผ่น MDF มีสีน้ำตาลอ่อน เนื้อไม้เนียนละเอียด และผิวเรียบ
  • วัสดุแผ่นHMR มีสีเขียว เนื้อไม้เนียนละเอียด ผิวเรียบ และสามารถรับน้ำหนักได้ดีกว่า MDF


ความทนทานต่อน้ำและความชื้น


โดยเฉพาะในแง่ของความทนทานต่อน้ำและความชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับคุณสมบัติด้านการทนน้ำและความชื้นของวัสดุทั้งสองประเภทนี้กัน เพื่อให้เข้าใจข้อดีข้อเสียและนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม


แผ่น MDF

  • แผ่น MDF หรือ Medium Density Fiberboard เป็นวัสดุที่ผลิตจากเส้นใยไม้อัดด้วยความร้อนและแรงอัดสูง แม้จะมีความแข็งแรงทนทานในการใช้งานทั่วไป แต่กลับมีข้อจำกัดเรื่องการทนน้ำและความชื้น เมื่อโดนน้ำหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง แผ่น MDF มักจะบวมพองและเสียรูปทรง ส่งผลให้โครงสร้างของเฟอร์นิเจอร์เสียหาย อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราและการผุกร่อน ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำ ระเบียง หรือพื้นที่กลางแจ้งที่สัมผัสกับความชื้นโดยตรง


แผ่น HMR 

  • ในทางตรงกันข้าม แผ่น HMR (High Moisture Resistance) ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขข้อด้อยของแผ่น MDF ด้วยการเพิ่มสารเคลือบพิเศษและกระบวนการผลิตที่ช่วยให้ทนความชื้นได้ดีขึ้น แผ่น HMR สามารถต้านทานความชื้นในอากาศและการกระเด็นของน้ำได้ในระดับหนึ่ง ทำให้เหมาะกับการทำเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัวหรือพื้นที่ที่มีความชื้นปานกลาง อย่างไรก็ตาม แต่ให้ระวังว่าแผ่น HMR ไม่ได้ทนน้ำ 100% จึงควรหลีกเลี่ยงการแช่น้ำหรือสัมผัสน้ำโดยตรงเป็นเวลานาน เพื่อยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์

คุณสมบัติด้านการใช้งาน 

ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ผู้ผลิตจำเป็นต้องทำความเข้าใจคุณสมบัติของวัสดุแผ่นไม้แต่ละประเภทถือเป็นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะแผ่น MDF และ HMR ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านการใช้งาน ลองมาทำความรู้จักกับวัสดุทั้งสองประเภทนี้กัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกวัสดุได้เหมาะกับงานที่ต้องการ


แผ่น MDF

  • แผ่น MDF เป็นวัสดุที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ภายในที่แห้ง พื้นผิวเรียบเนียนของแผ่น MDF ทำให้สามารถนำไปทำตู้ โต๊ะ หรือเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินทั่วไปได้อย่างสวยงาม แต่มีข้อควรระวังคือไม่ควรนำไปติดตั้งในบริเวณที่มีความชื้นสูง เพราะแผ่น MDF อาจบวมน้ำและเสียรูปทรงได้ง่าย ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง เหมาะสำหรับพื้นที่แห้ง เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องทำงาน

แผ่น HMR 

  • ส่วนแผ่น HMR เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับความชื้น เนื่องจากผ่านกระบวนการผลิตพิเศษที่ช่วยป้องกันความชื้นได้ดี ทำให้สามารถนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ในห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่เปียกชื้นอื่นๆ ได้อย่างมั่นใจ เช่น ตู้ใต้อ่างล้างหน้า ตู้เคาน์เตอร์อ่างล้างจาน หรือชั้นวางของในห้องน้ำ แผ่น HMR จึงเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์งานเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องทนทานต่อความชื้นได้เป็นอย่างดี

ด้านกระบวนการผลิต และส่วนประกอบ

ก่อนเราจะใช้งานแผ่นไม้ทั้ง 2 แบบการทำความเข้าใจกระบวนการผลิตและส่วนประกอบของแผ่น MDF และ HMR จะทำให้เรารู้พื้นฐานของวัสดุทั้ง 2 ชนิด ซึ่งแม้จะมีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกัน แต่ความแตกต่างในด้านการผลิตจึงเป็นส่วนที่ทำให้ทั้งคู่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน


แผ่น MDF

  • แผ่น MDF ผลิตจากการนำเศษไม้มาบดให้ละเอียดจนกลายเป็นเส้นใย จากนั้นผสมกับวัสดุประสานประเภทกาวสังเคราะห์ นำส่วนผสมทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการอัดด้วยแรงดันสูงพร้อมกับให้ความร้อน ทำให้เกิดเป็นแผ่นไม้ที่มีความหนาแน่นปานกลาง เนื้อแน่น เรียบเนียน เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ภายในอาคารที่ไม่โดนความชื้นโดยตรง โครงสร้างของแผ่น MDF ประกอบด้วยเส้นใยไม้ที่ถูกอัดแน่นอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถตัด เจาะ หรือขึ้นรูปได้ง่ายโดยไม่เกิดการแตกหรือบิ่น

แผ่น HMR 

  • สำหรับแผ่น HMR มีพื้นฐานการผลิตที่คล้ายคลึงกับ MDF แต่มีการเพิ่มกระบวนการพิเศษโดยใช้กาวเมลามีนชนิดพิเศษในการอัดประสาน พร้อมทั้งผสมสารเคมีที่ช่วยต้านทานความชื้น ทำให้แผ่น HMR มีความทนทานต่อความชื้นได้ดีกว่าแผ่น MDF ทั่วไป โครงสร้างภายในของแผ่น HMR ยังคงความแข็งแรงและความหนาแน่นเช่นเดียวกับ MDF 

ด้านความหนาแน่นและความแข็งแรง

เมื่อพิจารณาเลือกระหว่างแผ่นไม้ทั้งคู่ ผู้ใช้งานควรคำนึงถึงลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อมเป็นหลัก โดยความหนาแน่นและความแข็งแรงเป็นคุณสมบัติสำคัญ เพราะมันส่งผลต่อการนำไปใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ


แผ่น MDF

  • โดยทั่วไปแล้วแผ่น MDF เป็นวัสดุที่มีความหนาแน่นระดับกลาง โดยมีค่าความหนาแน่นอยู่ที่ประมาณ 600-800 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับงานเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป โครงสร้างภายในของแผ่น MDF ประกอบด้วยเส้นใยไม้ขนาดเล็กที่ถูกอัดด้วยกาวและความร้อน ทำให้มีความแข็งแรงเพียงพอต่อการรับน้ำหนักในระดับปกติ 

แผ่น HMR 

  • ส่วนแผ่น HMR นั้นได้รับการพัฒนาให้มีความทนทานต่อความชื้นมากกว่า ด้วยการเพิ่มสารกันความชื้นพิเศษเข้าไปในกระบวนการผลิต ส่งผลให้มีความหนาแน่นสูงขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ประมาณ 700-850 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อีกทั้งยังมีความแข็งแรงมากกว่าแผ่น MDF ธรรมดา ทำให้เหมาะกับการนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัว ห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง โดยยังคงรูปทรงและความแข็งแรงได้ดีแม้จะสัมผัสกับความชื้นบ่อยครั้ง

ด้านราคา

แผ่น HMR มีราคาสูงกว่าแผ่น MDF ในทุกระดับความหนา เนื่องจากคุณสมบัติการทนความชื้นที่เหนือกว่า แม้จะมีต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ HMR ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อพิจารณาถึงประสิทธิภาพในการต้านทานความชื้นที่ดีเยี่ยม ในภาพรวมแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับไม้อัดกันชื้นทั่วไป แผ่น HMR ยังมีราคาที่ถูกกว่า เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการวัสดุที่มีคุณภาพสูงในการทนความชื้น แต่ยังคงต้องการควบคุมต้นทุนไปพร้อมกัน

คุณคงเข้าใจแล้วว่าทั้งแผ่น MDF และ HMR ต่างมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เมื่อคุณทำความเข้าใจคุณสมบัติของมันแล้ว เราหวังว่าบทความวันนี้จะมีประโยชน์ ให้คุณสามารถเลือกใช้ไม้ที่เหมาะสมกับงานของคุณ นอกจากคุณสมบัติของตัวไม้แล้ว คุณจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ ทั้งสภาพแวดล้อมการใช้งาน งบประมาณ และความต้องการด้านการออกแบบ เพราะทุกอย่างนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานของคุณได้

บทความที่เกี่ยวข้อง
สี Pantone ประจำปี 2025 และแรงบันดาลใจในการตกแต่งภายใน
ทุกปี สถาบัน Pantone Color Institute จะประกาศสีแห่งปี ซึ่งมีอิทธิพลต่อวงการออกแบบ แฟชั่น และการตกแต่งภายใน สำหรับปี 2025 สีที่ได้รับเลือกคือ Mocha Mousse (PANTONE 17-1230) ซึ่งเป็นสีน้ำตาลอ่อนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น หรูหรา และสงบ สีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ความสบายใจ และความสงบในชีวิตประจำวัน ทำให้เหมาะสำหรับการตกแต่งภายในที่ต้องการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสมดุล
24 ม.ค. 2025
รู้จักกับ กาว E-Zero หรือกาวที่ปราศจากสารฟอร์มัลดีไฮด์
กาวเป็นวัสดุที่เราคุ้นเคยและพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใช้ในงานประดิษฐ์ งานฝีมือ หรือเอาไว้ซ่อมแซมสิ่งของ หรือแม้แต่ในอุตสาหกรรมการผลิตต่างก็ต้องใช้กาว หนึ่งในส่วนผสมที่นิยมผสมอยู่ในกาวที่ใช้ในอุตสาหกรรมคือ ฟอร์มัลดีไฮด์ แล้วสารเคมีตัวนี้มันดี หรือไม่ดีอย่างไร? ทำไมปัจจุบันถึงมีทางเลือกใหม่เป็น “กาว E-Zero” เราจะพาทุกคนไปดูกันในบทความวันนี้
24 ม.ค. 2025
ไม้อัดยางสําหรับงานก่อสร้างและงานเฟอร์นิเจอร์ มีความแตกต่างกันอย่างไร
ไม้อัดยาง - วัสดุที่มีบทบาทสำคัญในวงการก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์มาอย่างยาวนาน แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าไม้อัดยางที่ใช้ในงานก่อสร้างกับงานเฟอร์นิเจอร์นั้นแตกต่างกันอย่างไร? หลายคนอาจคิดว่าไม้อัดยางเป็นวัสดุทั่วไปที่ใช้งานได้หลากหลาย แต่ความจริงแล้ว ไม้อัดยางสำหรับแต่ละประเภทงานมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เลือกใช้แตกต่างกัน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูความแตกต่างระหว่างไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้างและงานเฟอร์นิเจอร์เป็นอย่างไร ให้คุณสามารถเลือกใช้ไม้อัดยางได้อย่างเหมาะสมกับงานของคุณ
24 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy