ไม้อัดยางสําหรับงานก่อสร้างและงานเฟอร์นิเจอร์ มีความแตกต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติด้านความหนาและความแข็งแรง 

หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญในงานก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ ทั้ง 2 ชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันตามการใช้งาน ความหนาและความแข็งแรงของไม้อัดยางเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดความเหมาะสมสำหรับแต่ละประเภทงาน ลองมาดูกันว่าไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้างและงานเฟอร์นิเจอร์มีลักษณะอย่างไรบ้าง


1. ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้าง

ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้างมักมีความหนาและความแข็งแรงมากกว่า เพื่อรองรับแรงกดและน้ำหนักในการใช้งานที่หนักหน่วง เช่น การทำแบบหล่อคอนกรีต ซึ่งต้องทนต่อแรงดันของคอนกรีตสด ความหนาของไม้อัดประเภทนี้อาจอยู่ในช่วง 12-25 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่กับความต้องการของงาน ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้างยังผ่านกระบวนการผลิตพิเศษเพื่อเพิ่มความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก ให้ทนต่อความชื้น แสงแดด และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ 

2.ไม้อัดยางสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์

สำหรับไม้อัดยางสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์มักมีความบางกว่า เนื่องจากไม่ต้องรับน้ำหนักมากเท่างานก่อสร้าง แต่เน้นที่ความเรียบและลักษณะผิวที่สวยงาม ผู้ผลิตให้ความสำคัญกับการเลือกไม้ที่มีลายสวย และการขัดผิวให้เรียบเนียน เพื่อให้เหมาะกับการตกแต่งและทำสีได้ง่าย ความบางของไม้อัดยางประเภทนี้ยังช่วยให้ง่ายต่อการตัด เจาะ และประกอบเป็นชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ สามารถรองรับแบบเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลายรูปแบบ 


คุณสมบัติด้านคุณภาพของผิวหน้า

คุณภาพของผิวหน้าไม้อัดยางเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการใช้งานและความสวยงามของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างหรืองานเฟอร์นิเจอร์ ผิวหน้าของไม้อัดยางแต่ละประเภทส่งผลต่อกระบวนการผลิต ต้องเลือกให้เหมาะสม และคำนึงถึงการเอาไปใช้งาน

ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้าง

ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้าง มักไม่เน้นความสวยงามของผิวหน้ามากนัก เนื่องจากมุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ผิวหน้าของไม้อัดประเภทนี้อาจมีปมไม้หรือพื้นผิวที่ไม่เรียบปรากฏให้เห็นได้ ทั้งนี้เพราะในกระบวนการผลิต ผู้ผลิตไม่ได้ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกไม้ที่มีผิวเรียบสวยงามมากนัก แต่จะเน้นที่ความแข็งแรงและทนทานมากกว่า ในขั้นตอนการอัดไม้ ก็อาจไม่ได้ใช้แรงกดสูงมากนัก ทำให้ผิวหน้าอาจไม่เรียบเนียนเท่าแบบสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ ลักษณะผิวหน้าเช่นนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานในงานก่อสร้าง เพราะส่วนใหญ่จะถูกปิดทับด้วยวัสดุอื่นๆ อยู่แล้ว เช่น ปูนฉาบ กระเบื้อง หรือวัสดุตกแต่งอื่นๆ

2.ไม้อัดยางสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์

ไม้อัดยางสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ต้องการผิวหน้าที่เรียบเนียนและสวยงาม เพื่อรองรับการทำสีหรือตกแต่งเพิ่มเติมให้ดูดี ผู้ผลิตจึงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกไม้ที่มีผิวเรียบสวยงาม ปราศจากตำหนิหรือปมไม้ ในกระบวนการผลิต จะมีการขัดผิวหน้าไม้อย่างละเอียด และใช้แรงอัดที่สูงกว่าเพื่อให้ได้ผิวหน้าที่เรียบเนียน อาจมีการเคลือบผิวหน้าด้วยวัสดุพิเศษเพื่อเพิ่มความเรียบเนียนและความสวยงาม ทำให้ไม้อัดประเภทนี้เหมาะสำหรับการนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความสวยงามและความประณีต


คุณสมบัติด้านการเคลือบผิว

การเคลือบผิวไม้อัดยางถือเป็นขั้นตอนที่เพิ่มมูลค่าและคุณภาพให้กับผลิตภัณฑ์ได้อย่างมาก โดยเฉพาะในงานตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องคำนึงถึงความสวยงามควบคู่ไปกับความทนทาน การเคลือบผิวไม้อัดยางแต่ละประเภทจะมีวิธีการและวัสดุที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้งาน


1. ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้าง

ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้างมักถูกผลิตขึ้นโดยไม่ต้องมีการเคลือบผิวพิเศษ เพราะมุ่งเน้นความแข็งแรงทนทานเป็นหลัก ผิวไม้จะมีลักษณะหยาบและเรียบง่าย เหมาะกับการนำไปทำโครงสร้าง แบบหล่อคอนกรีต หรือผนังชั่วคราว ข้อดีของการไม่เคลือบผิวคือช่วยประหยัดต้นทุน และทำให้ไม้อัดยางสามารถระบายความชื้นได้ดี ลดปัญหาการบวมน้ำหรือโก่งตัวเมื่อถูกความชื้น นอกจากนี้ยังง่ายต่อการตัด เจาะ หรือตอกตะปู โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแตกร้าวของผิวเคลือบ

2.ไม้อัดยางสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์

ส่วนไม้อัดยางสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์จะผ่านกระบวนการเคลือบผิวอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้พื้นผิวที่สวยงาม เรียบเนียน และมีลวดลายตามต้องการ วัสดุที่ใช้เคลือบผิวมีหลากหลาย เช่น เมลามีน ลามิเนต หรือวีเนียร์ไม้จริง การเคลือบผิวช่วยปกป้องเนื้อไม้จากความชื้น รอยขีดข่วน และการเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังเพิ่มความสวยงามให้กับชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ดูมีคุณค่าและน่าดึงดูด เหมาะสำหรับการนำไปผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน สำนักงาน หรืองานตกแต่งภายในต่างๆ

คุณสมบัติด้านการทนทานต่อสภาพแวดล้อม 

ในด้านการทนทานต่อสภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาเมื่อนำไม้อัดยางไปประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ เพราะสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันย่อมส่งผลต่ออายุการใช้งานและความคงทนของไม้อัดยาง


1. ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้าง

ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้าง ต้องผ่านกระบวนการผลิตพิเศษที่ช่วยเพิ่มความทนทานต่อสภาพอากาศภายนอก ด้วยการอัดน้ำยากันความชื้นและสารป้องกันแมลงเข้าไปในเนื้อไม้ ทำให้แผ่นไม้อัดสามารถทนต่อแสงแดด ฝน และความชื้นได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับงานก่อสร้างภายนอกอาคาร เช่น งานทำแบบหล่อคอนกรีต งานมุงหลังคา หรืองานผนังภายนอก 

2.ไม้อัดยางสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์

ไม้อัดสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานภายในอาคาร โดยเน้นความสวยงามของลายไม้และความเรียบเนียนของผิวหน้า เนื้อไม้มีความละเอียดและแน่นกว่า แต่ความทนทานต่อความชื้นจะน้อยกว่าไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้าง 

ความแตกต่างด้านราคา

นอกจากคุณสมบัติด้านต่างๆ ที่เราได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ในการเลือกไม้อัดยางให้เหมาะกับงาน ปัจจัยด้านราคาถือเป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปกับการใช้งาน 

1. ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้าง

ไม้อัดยางสำหรับงานก่อสร้างมักมีราคาที่ถูกกว่า เนื่องจากกระบวนการผลิตที่เน้นความแข็งแรงเป็นหลัก โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสวยงามของผิวไม้มากนัก ผู้ผลิตจะคัดเลือกไม้ยางพาราที่มีความทนทานมาอัดเป็นแผ่น ด้วยกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่า 

2.ไม้อัดยางสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์

ส่วนไม้อัดยางสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์นั้น มีราคาสูงกว่าเนื่องจากผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันมากกว่า ตั้งแต่การคัดเลือกไม้ที่มีลวดลายสวยงาม การอัดประสานที่ละเอียด ไปจนถึงการขัดแต่งผิวหน้าให้เรียบเนียน ทำให้ได้ไม้อัดที่มีคุณภาพผิวหน้าดี เหมาะสำหรับงานตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ หรืองานที่ต้องการความสวยงามควบคู่ไปกับความแข็งแรง ถึงแม้จะมีราคาสูงกว่า แต่คุณภาพที่ได้ก็คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป

ก็จบกันไปแล้วสำรับบทความวันนี้ หวังว่าเนื้อหาที่เราเขียนจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านให้ได้ข้อมูลที่คุณสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ในการเลือกไม้อัดยางให้เหมาะสมกับงานของคุณ เพราะไม้อัดยางทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ข้อแนะนำอีกข้อคือ ก่อนสั่งไม้ไปใช้ อยากจะให้ปรึกษาผู้จำหน่ายไม้ ก็อาจจะได้คำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมที่คุณต้องการได้